วันเสาร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2553

Akaroa อาคารัว


Akaroa เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นไปในทะเล ที่เรียกว่า Bank Peninsula เหมือนเคยได้ยินว่าภูมิประเทศแถบนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ทำให้เกิดแหลมแห่งนี้ขึ้น ดินแถบนี้ก็เป็นดินภูเขาไฟจะเห็นว่ามีสีดำๆ น่าจะเหมาะสำหรับการเพาะปลูกมากๆเลยค่ะ และ Akaroa ในอดีตเคยเป็นชุมชนของชาวฝรั่งเศสที่อพยพมายังเกาะใต้แห่งนี้ ที่นี่จึงมีกลิ่นอายของความเป็นฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน อาหาร และวิถีชีวิต ซึ่งช่วงที่เรามาเยือนนี้เค้ากำลังเตรียมจัดงานเทศกาลฝรั่งเศสกันอยู่ งานจะมีขึ้นในอาทิตย์หน้านี้เอง ชาวเมืองกำลังประดับประดาบ้านเรือน ติดป้านผ้ากันอยู่ทั่วไป

Twizel ทวิเซล


Located in the heart of New Zealand’s South Island, the town of Twizel, at a distance of 68km, is the closest town to Aoraki Mt Cook, the highest mountain in Australasia.

Established as recently as 1968 and with a permanent population of 1200, Twizel has the location and infrastructure to satisfy all visitors, whether they be from New Zealand or overseas.

Visitors to Twizel will find plenty to do, both in winter and summer alike. With an abundance of lakes and rivers all around and the alpine playgrounds of Ohau and Mt Cook less than an hour’s drive away,

The open spaces, fine climate, well-established services, laid-back pace and broad range of activities truly make Twizel – A Great Place to Be...

Queenstown ควีนสทาวน์

Queenstown เมืองที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของนักท่องเที่ยวที่มานิวซีแลนด์ ได้ชื่อว่า "Adventure Capital of the World" และเป็น the "second most attractive tourist destination in the world"

มีนักท่องเที่ยวมาเยือนปึละ 1.2 ล้านคน Queenstown ตั้งอยู่ที่เกาะใต้ของนิวซีแลนด์ ข้างทะเลสาบ Lake Wakatipu ล้อมรอบด้วยเทือกเขาต่างๆ Remarkable ร้านอาหาร และร้านค้าต่างๆ เปิดบริการ 24 ชั่วโมง และมีเทศกาลต่างๆทุกฤดูกาล สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ได้แก่ bungy jumping, jetboating, skydiving, hiking, white water rafting, paragliding, mountain biking และอื่นๆ

จากทัศนียภาพที่สวยงามจึงใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างๆ เช่น Lord of the Rings

อยู่ใกล้เมืองและสถานที่ต่างๆ ได้แก่ Milford Sound, Arrowtown, Wanaka and Glenorchy

Queenstown เป็นเมืองที่ปลอดภัย ชาวเมืองมีอัธยาศัยดี เป็นมิตร มีคดีความน้อยมาก แทบไม่มีคนว่างงาน

ข้อมูลเมือง Queenstown
ประชากร 9,000 คน
อุณหภูมิเฉลี่ยในฤดูกาล - max / min
• Summer (Dec-Feb): 22°C / 10°C
• Autumn (Mar-May): 16°C / 6°C
• Winter (Jun-Aug): 9°C / 0°C
• Spring (Sept-Nov): 17°C / 5°C

Wanaka วานาก้า

Wanaka เป็นเมืองสวยริม Wanaka Lake ที่กำลังเติบโตตามรอย Queenstown อย่างช้าๆด้วยทำเลที่ทิศเหนือติดกับเมือง Hasst สุดเขต West Coast District ทั้งสองเมืองถูกเชื่อมกันด้วยเส้นทางที่ตัดผ่านส่วนหนึ่งของ Mt Aspiring National Park ตั้งแต่ช่วง Hasst Pass ผ่าน Lake Wanaka ทางด้านเหนีอสุดที่ปรากฏกายทางขวาก่อนจะพบ Lake Hawea ทางซ้ายซึ่งทั้ง 2 Lake ถูกกั้นด้วยพื้นดินเล็กๆที่ขนานนามว่า The Neck และทางใต้ติดกับ Queenstown เมืองที่ในโอบล้อมของหุบเขาและทะเลสาบและ Cromwell เมืองชายแดนของ Otago Region จุดเริ่มต้นของเส้นทางสวยสาย SH8 ที่มุ่งสู่ Mt Cook National Park ใน MacKenzie Country, Canterbury Region

เส้นทางจาก Hasst Pass มายัง Wanaka ยังเปล่งประกายสวยงามมากแม้ในยามเปียกเฉอะแฉะด้วยสายฝน น้ำตกหลายสิบสายทิ้งตัวจากยอดเขาสูงสู่เบื้องล่างเป็นเส้นขาวตัดผ่านสีเขียวของผืนป่าทึบเป็นภาพที่เราถึงกับอึ้งไปพักใหญ่ และแม้ว่าเราจะได้เพียงมอง Lake Wanaka และ Lake Hawea ผ่านม่านฝนก็ยังคงเห็นความงามที่คงเปล่งประกายสีฟ้าสดในยามฟ้าใส

ตัวเมือง Wanaka ก็มีเสน่ห์ไม่แพ้ Queenstown อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไป... จากที่นี่อีก 51 กม. คือถนนที่จะนำเราสู่ที่ทำการ Mt Aspiring National Park ซึ่งเป็น World Heritage Site เหมือนเขาใหญ่ของเรา... เช่นเดียวกันเราก็ไม่ได้พก "เวลา" มาจ่ายให้เธอเหมือนเดิม

อีกสิ่งที่เป็น Landmark ของ Wanaka คือ Puzzling World สวนสนุกเล็กๆที่มีอะไรน่าสนใจ เราใช้เวลาช่วงเย็นฉ่ำฝนโดยหวังเพียงแวะฆ่าเวลาแต่เราพบว่ามีอะไรน่าสนใจกว่าที่คิด...

องค์ประกอบของ Wanaka มีสถานที่ที่มีเสน่ห์เล็กๆหลายแห่งทั้งริม Lake สีสันของต้นไม้กลางเมืองรวมถึงถนนเส้นรองที่มุ่งสู่ Queenstown ตัดผ่านหุบเขาที่ปกคลุมด้วยต้นหญ้าสีน้ำตาลที่ไต่ขึ้นสู่จุดสูงสุดที่เป็นจุดชมวิวที่สามารถแลเห็นตัวเมือง Queenstown ได้ลิบๆ

Te Anau


Te Anau ทีอะนาอู เป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าค้นหาเมืองหนึ่งในประเทศ นิวซีแลนด์ (New Zealand) นักท่องเที่ยวจะได้ค้นพบประสบการณ์ที่ไม่รู้ลืมกับแหล่งท่องเที่ยวและทัศนียภาพต่างๆ ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้าไปสัมผัสความงามที่เป็นเอกลักษณ์ของเมือง Te Anau

อาหารประจำท้องถิ่น ของ Te Anau คือความภูมิใจของคน New Zealand ที่ต้องการให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาดอันเป็นเอกลักษณ์ และได้รับประการณ์อันน่าประทับใจผ่านศาสตร์และศิลป์ ในการปรุงอาหาร

วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2553

Milford Sound มิลฟอร์ดซาวด์


Milford Sound is located in the beautiful Fiordland region of New Zealand. Milford Sound was described by Rudyard Kipling as the 'eighth wonder of the world'.
Sound หมายถึงส่วนของทะเลที่ถูกแผ่นดินโอบล้อมไว้ แต่ Sound มีความลึกในการเข้าไปในแผ่นดินมากกว่า อ่าว (gulf) การไปชม Milford Sound ต้องนั่งเรือชม โดยใช้เวลาในการนั่งเรือไป-กลับ จากส่วนที่อยู่ในสุดไปจนถึงปากอ่าวทะเลเป็น เวลาเกือบๆสามชั่วโมง



เส้นทางไปสู่ Milford Sound นั่งรถจาก Queenstown เป็นเส้นทางที่ยาวนานแต่สวยตลอดทาง

ความยิ่งใหญ่อลังการของธรรมชาติบริเวณ Milford Sound นั่งเอง ทำให้ชาวนิวซีแลนด์ภูมิใจนักหนาจนเรียกขานว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อันดับ 8 ของโลก ที่แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงสมบัติของชาวนิวซีแลนด์เท่านั้น แต่ยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกอีกด้วย

มิวฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound) เป็นผืนน้ำอันเป็นส่วนเว้าของทะเลทาสมัน ซึ่งถูกโอบล้อมไว้ด้วยหุบเขาที่แคบและหน้าผาสูงชันอันเกิดจากการกัดเซาะของ ธารน้ำแข็ง ต่อมาเมื่อธารน้ำแข็งหายไปก็มีน้ำทะเลเข้ามาแทนที่ ซึ่งถูกเรียกว่า “ฟยอร์ด (Fiord หรือ Fjord)” บริเวณที่ธารน้ำแข็งกัดเซาะและถูกแทนที่โดยน้ำทะเล ส่วนที่เป็นผืนน้ำจะเรียกว่า “ซาวด์” ในขณะที่ส่วนที่เป็นภูเขาและหน้าผา ซึ่งมีส่วนแหลมยื่นเข้ามาในน้ำจะเรียกว่า “ฟยอร์ด”นั่นเอง

การชมทัศนียภาพบริเวณมิลฟอร์ดซาวด์นอกเหนือไปจากการนั่งเรือ แล้ว ยังมีทัวร์นั่งเครื่องบินด้วยแต่มีราคาแพงกว่ามาก ดังนั้นการนั่งเรือชมวิวจึงเป็นสุดยอดในการท่องมิลฟอร์ดซาวด์ เพราะสามารถเก็บรายละเอียดและให้มุมมองที่งดงามของมิลฟอร์ดซาวด์ได้ดีที่สุด

ถนน “The Milford Road” มีความยาว 121 km (75 ไมล์) เป็นเส้นทางจาก “Te Anau” ไป “Milford Sound” ด้วยความงามและหลากหลายของทิวทัศน์ถนนเส้นนี้จึงได้รับเลือกให้เป็น “ไฮเวย์มรดกโลก (World Heritage Highway)”


Gore กอร์/จอร์


Gore is a town, surrounding borough, and district in the Southland region of the South Island of New Zealand.

The Gore District has a land area of 1,251.62 km² (483.25 sq mi) and a resident population of 12,250 (June 2009 estimate).[1]

The town of Gore is 64 km northeast of Invercargill and 70 km west of Balclutha—Dunedin and Invercargill are the nearest cities. The urban area estimated resident population at the June 2009 estimate was 9,740 , the second largest in Southland.[1] Gore is a service town for the surrounding farm communities.

It is divided by the Mataura River into Gore and East Gore, the majority of the town being situated on the western banks of the river. The Main South Line railway from Dunedin to Invercargill runs through the town, though passenger services ceased in 2003. Gore was once a busy railway junction; the Waimea Plains Railway ran west to connect with the Kingston Branch in Lumsden, while the Waikaka Branch connected with the Main South Line nearby in McNab. One of New Zealand's most famous preserved trains is the Kingston Flyer, which takes its name from a passenger express that once ran between Kingston and Gore.

Gore is known in New Zealand folklore as the home of Hokonui moonshine. During the days of prohibition, the Hokonui Hills to the west of the town gained a reputation for the production of illicit alcohol.

Gore's local radio station Hokonui Gold broadcasts from within the town

Bluff เมืองใต้สุดของนิวซีแลนด์

Bluff is a town and seaport in the Southland region, on the southern coast of the South Island of New Zealand. It is the southern-most town in New Zealand and, despite Slope Point being further to the south, is colloquially used to refer to the southern extremity of the country (particularly in such phrases as "from Cape Reinga to The Bluff"). According to the 2006 census, the usually resident population was 1,850, a decrease of 85 since 2001.[1]

The Bluff area, while itself not settled by Māori, was one of the earliest areas of New Zealand where a European presence became established. The first ship known to have entered the harbour was the Perseverance in 1813, in search of flax trading possibilities, with the first European settlers arriving in 1823/1824. This is the foundation for the claim[2] that this makes Bluff the oldest permanent European settlement in the country. However the missionary settlement at Kerikeri was both earlier and larger and the town is now larger than that of Bluff.

Invercargill อินเวอร์คาร์กิลล์


นิวซีแลนด์ (New Zealand) ดินแดนแห่งมนต์เสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลในความงดงาม เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันของการท่องเที่ยวทุกซอกทุกมุม Invercargill หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ความงดงามตระการตา และความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Invercargill

นอกจากภูมิประเทศและทัศนียภาพอันสวยงามแล้ว Invercargill ยังมีชื่อเสียงด้านอาหารและวัฒนธรรมประจำท้องถิ่น ซึ่งหากท่านเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งชอบความแปลกใหม่และต้องการลิ้มรสอาหารท้องถิ่น Invercargill, New Zealand จะทำให้ประทับใจและรู้สึกอยากกลับมาเยือนอีกครั้ง

สิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับการท่องเที่ยวมาตลอด สำหรับนักท่องเที่ยวนั่นคือ แหล่งช็อปปิ้ง ของฝาก ของที่ระลึก ซึ่ง Invercargill ก็มีร้านขายของฝากมากมายให้ได้จับจ่าย เป็นเจ้าของ และนำกลับไปฝากคนเรารัก เพื่อเป็นเครื่องย้ำเตือนความทรงจำดีๆ ว่าครั้งหนึ่งเคยได้เดินทางมา Invercargill, New Zealand

Dunedin ดันเนดิน/ดูนีดิน/ฯ

Dunedin เมืองดันเนดิน ตั้งอยู่ตอนล่างของเกาะใต้ ประเทศนิวซีแลนด์ เป็นเมืองที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษา เนื่องจากเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยโอทาโก้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ (อายุมากกว่านร้อยปี) และว่ากันว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เข้าได้ยากที่สุด (และค่าเล่าเรียนน่าจะแพงที่สุด) นักศึกษาไทยส่วนใหญ่จึงเป็นนักเรียนทุนของรัฐบาล หรือผู้ที่มีความพร้อมอยู่ในระดับที่ดีมากเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนมัธยมที่มีชื่อเสียง และสถาบันการศึกษาในระดับอื่นๆ รวมถึงสถาบันสอนภาษาอีกด้วย
...



สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าชมของเมืองดันเนดิน เช่น มหาวิทยาลัยโอทาโก้ และยังมีสถานีรถไฟที่เก่าแก่และสวยงามมาก ไปจนถึงปราสาทโบราณที่ชื่อว่า ลานาร์ค คาสเซิล ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา (สามารถขับรถขึ้นไปชมได้)


ศูนย์ศึกษาชีวิตสัตว์ทะเล (New Zealand Marine Studies Center) ศูนย์ฯ แห่งนี้มีไฮไลต์อยู่ที่เป็นที่ชมการอนุรักษ์นกอัลบาทรอส (Royal Albatross Center) นักท่องเที่ยวสามารถเห็นพฤติกรรมของนกชนิดนี้ผ่านกล้องส่องทางไกล ซึ่งจะเห็นมันวางไข่ เลี้ยงลูก เพราะการจะเห็นนกอัลบาทรอสแบบธรรมชาติเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่หาดูได้ง่ายๆ เนื่องจากนกชนิดนี้หากินในทะเล เมื่อตัวโตเต็มที่จะออกทะเลครั้งละ 2 ปีก่อนจะกลับมาถิ่นเดิม ตัวนกที่เห็นจากกล้องอาจตัวนิดเดียว มีรูปร่างเหมือนนกนางนวลสีขาว แต่แท้จริงแล้วตัวใหญ่มาก กางปีกสองข้างออกวัดได้เกือบ 3 เมตรทีเดียว

บริเวณที่ชมนกของ Royal Albatross Center เป็นหน้าผา มีลมค่อนข้างแรง ซึ่งเป็นลักษณะในการเลือกทำเลเพื่อทำรังของนกชนิดนี้ ดังนั้นจึงควรเตรียมเสื้อกันหนาวติดตัวไปด้วย

คาบสมุทรโอตาโกมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศวิทยามาก ริมทะเลตลอดแนวชายหาดอันยาวไกลของที่นี่เป็นที่อยู่ของสัตว์ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น สิงโตทะเล แมวน้ำ และนกเพนกวินขอบตาเหลือง ซึ่งการจะดั้นด้นไปเพื่อเฝ้ามองมันจากบนหน้าผาต้องนั่งนิ่งอย่างเงียบที่สุด และขณะที่เรารอชมความอัศจรรย์ของชีวิตธรรมชาติ เราอาจได้ยินเสียงหัวใจของเรากำลังเต้น บางทีมันอาจกำลังรำพึงบอกว่า...โลกนี้ช่างกว้างใหญ่เสียเหลือเกิน

OAMARU โออามารู


เป็นเมืองที่ได้สัมผัสแล้ว เกิดความรู้สึกที่ว่างเปล่า หรือที่เรียกว่าสุขจากข้างใน ....

Visit Oamaru & Waitaki District

A district of stunning natural beauty, lush rolling farmland, ancient marine landscapes and the Moeraki Boulders.

Ensure a close encounter with our precious wildlife; view Blue Penguins, the worlds smallest. in their natural environment. Close by visit one of the worlds rarest penguins, the Yellow Eyed (Hoiho).
บลูเพนกวิน เป็นเพนกวินที่ตัวเล็กที่สุดในโลก


View priceless Maori artefacts, grand Victorian Architecture, plus a unique colonial heritage that shaped the nations wealth. This is our district!

Christchurch : ไครสต์เชิร์ช

ประชากร ประมาณ 345,000 ล้านคน

ปีที่ก่อตั้ง มีการตั้งถิ่นฐานตั้งแต่ประมาณปี 1800 แต่แต่งตั้งอย่างเป็นทางการช่วงต้นทศวรรษ 1950

จุดเด่นเมือง เมืองไครสต์เชิร์ชเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลโดยตรงจากอังกฤษ เป็นเมืองใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดของเกาะใต้ มีแม่น้ำเอวอนไหลผ่านตัวเมืองก่อให้เกิดทัศนียภาพที่งดงาม มีความร่มรื่นของถนนทุกสายและมีสวนดอกไม้สวยงามอยู่ทั่วเมืองไปหมด จนได้รับการขนานนามว่าเป็น Garden City of the World ทำให้เมืองนี้ขึ้นชื่อเรื่องความบริสุทธิ์และใกล้ชิดกับธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจึงมักเดินทางมาเยี่ยมเยือนและปลุกให้เมืองนี้มีชีวิตชีวาและยิ้มแย้มต้อนรับผู้คนอยู่เสมอ

งาน เมืองนี้เป็นเมืองโบราณแบบอังกฤษ ผู้คนใช้ชีวิตสงบๆ กับธรรมชาติ แต่สิ่งเหล่านี้กลับดึงดูดให้ผู้คนหลั่งไหลกันมาหาพวกเขา และสร้างงานให้กับคนในเมืองนี้ด้วย ดังนั้นงานจึงหาไม่ยากเลยในเมืองท่องเที่ยวนี้

ท่องเที่ยว
แหล่งท่องเที่ยวในไครสต์เชิร์ชเต็มไปด้วยโบสถ์ หอศิลปะ และสวนสวยต่างๆ เพราะผู้คนที่นี่มักจะนิยมปลูกสวน เราได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวไว้พอสังเขปดังนี้

Cathedral Square ลานหน้าวิหาร Church of England ซึ่งตั้งอยู่กลางเมือง วิหารทรงนีโอตั้งเด่นเสมือนเป็นประธานของเมือง
Botanic Gardens and Hagley Park สวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในต้นฤดูสปริง ดอกไม้จะสวยมาก มีทุ่งดอกแดฟโฟดิล เหนือศีรษะมีดอกเชอรี่บลอสซ่อม และยังมีแม่น้ำเอวอนไหลผ่านอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ Canterbury Museum
Ferrymead Heritage Park
Willowbank Wildlife Reserve
Air Force Museum ( http://www.airforcemuseum.co.nz )
Southern Encounter Aquarium and Kiwi House ชมสัตว์น้ำและกีวี่ซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะของนิวซีแลนด์
International Antarctic Centre
Christ's College, หนึ่งในโรงเรียนเอกชนชั้นนำของนิวซีแลนด์
The Roman Catholic Basilica หนึ่งในโบสถ์ที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 1905
Christchurch City Art Gallery แกลลอรี่ศิลปะ
Historic electric tram
The Christchurch Arts Centre and site of "Ernest Rutherford's Den"
The Provincial Chambers
The New Brighton Pier
Heathcote Gondola

พื้นที่
ประมาณ 5,240 ตารางกิโลเมตร ( 17,467 ตารางไมล์)

สนามบิน
มีสนามบินนานาชาติ Christchurch International Airport (CHC) ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 12 กิโลเมตรหรือ 7 ไมล์ ์

การเดินทางระหว่างรัฐ
ทางรถบัสและรถโค้ช เป็นการเดินทางที่สะดวกและไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก โดย Intercity and Mount Cook จะจัดบริการรถไปยังเมืองสำคัญอื่นๆ และข้ามเขาไปยัง Greymouth ด้วย ทางรถไฟ มีสถานีห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีรถรับ-ส่งบริการในทุกเช้า รถไปจะพาเราไปยังเมื่องต่างๆ เช่น Wellington และ Greymouth หรือที่ใกล้ๆ เมืองเช่น Kaikoura, Picton และ Blenheim

สภาพภูมิอากาศ
สภาพอากาศในเมืองไครสต์เชิร์ชเป็นแบบเขตร้อนชายฝั่งทะเล สามารถเปลี่ยนแปลงได้เร็วมาก มีฝนตกลงมาได้ในทุกช่วงเวลา แม้ว่าส่วนใหญ่จะตกในฤดูหนาวก็ตาม แต่สำหรับเมืองนี้มักจะมีอากาศแบบแห้งๆ และมีฝนตกน้อยกว่าพื้นที่อื่นๆ บนเกาะทางใต้ อากาศโดยรวมของเมืองซึ่งอยู่บนเกาะทางใต้มักจะอบอุ่นมากกว่าทางเหนือ ดังนั้นในฤดูร้อนสภาพอากาศของเมืองจึงร้อนกว่า

ฤดูกาลต่างๆ ของเมืองไครสต์เชิร์ช

ฤดูใบไม้ผลิ เดือนกันยายน – พฤศจิกายน
ฤดูร้อน เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์
ฤดูใบไม้ร่วง เดือนมีนาคม – เมษายน
ฤดูหนาว เดือนมิถุนายน – สิงหาคม

ที่มา : IT Education

ไคคูร่า Kaikoura

ประชากร ประมาณ 3,850 คน

ปีที่ก่อตั้ง ประมาณปีค.ศ. 1770 ค้นพบโดยกัปตันคุ๊ก

จุดเด่นเมือง
ชื่อเมืองไคคูร่าหมายถึง “The cooking place of crayfish” เพราะตั้งอยู่ชายทะเลทางเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ และทำอุตสาหกรรมเลี้ยงกุ้งเป็นอาชีพหลักของเมือง นอกจากนี้ยังมีการท่องเที่ยวดูปลาวาฬและว่ายน้ำไปกับปลาโลมา อันเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเมืองเล็กๆ แห่งนี้เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและชีวิตท้องทะเลอย่างใกล้ชิด บรรยากาศของเมืองจึงเป็นแบบสบายๆ ผู้คนค่อนข้างเป็นกันเองและอบอุ่น

งาน
เมืองนี้เป็นเสมือนหมู่บ้านเล็กๆ ค่อนข้างเงียบสงบ แต่ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามและปลาวาฬ ปลาโลมาจึงทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงขึ้น งานที่หาได้เป็นงานบริการหรืองานรับจ้างทั่วๆ ไป ซึ่งไม่น่าจะหายากมากนักเพราะจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาแสวงหาธรรมชาติในเมืองนี้ก็นับได้ว่าไม่น้อย

ท่องเที่ยว
เมืองไคคูร่าเป็นเมืองท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีเสน่ห์ในการให้บริการด้านการดูปลาวาฬ แมวน้ำ ว่ายน้ำสัมผัสปลาโลมา และนั่งเฮลิคอปเตอร์ดูปลาวาฬ แต่นอกจากการได้ใกล้ชิดกับสัตว์น้ำนานาชนิดแล้ว เมืองนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกเช่น

Kaikoura's oldest house บ้านโบราณที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1860 โดยตั้งชื่อตามเจ้าของเดิมคือ George Fyffe บ้านหลังนี้ถือเป็นโบราณสถานเก่าแก่และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
Kaikoura Museum พิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวมรวมเรื่องราวของเมืองนี้ รวมไปถึงประวัติของปลาวาฬด้วย
Mount Lyford Alpine Resort รีสอร์ตที่ให้บริการกิจกรรมต่างๆ เช่น สกี สโนว์บอร์ด
Kaikoura Peninsula แหลมหินที่เป็นแหล่งพักพิงของแมวน้ำ ซึ่งเราสามารถถ่ายรูปและสัมผัสกับพวกเขาได้อย่างใกล้ชิด
Maori Leap Cave ถ้ำที่อยู่ห่างจากเมืองไปประมาณ 3 กิโลเมตร ถ้ำนี้เจาะเข้าไปในหน้าผา Maori Leap และมีโพรงให้ลำธารใต้ดินไหลออกมาได้ด้วย
Little Garden of Memories สวนที่จะทำให้เราย้อนรำลึกไปถึงอดีตของพวก Takahanga Pa

พื้นที่
ประมาณ 654.12 เฮคเตอร์

สนามบิน
ต้องใช้สนามบินนานาชาติ Christchurch International Airport (CHC) แล้วจึงเดินทางต่ออีกประมาณ 3 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ์

การเดินทางระหว่างรัฐ
ไคคูร่าอยู่ห่างจากเมืองไคร้สต์เชิร์ชประมาณ 180 กิโลเมตร (ขับรถประมาณ 2.5 ชั่วโมง) และห่างจากเมืองพิคตันประมาณ 160 กิโลเมตร (ขับรถประมาณ 2 ชั่วโมง) สามารถเดินทางโดยรถโค้ชและรถไฟซึ่งบริการจากเมืองไคคูร่าไปยังเมืองต่างๆ เช่น Christchurch, Blenheim, Picton และ Hanmer Springs นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่จากเวลลิงตันได้อีกด้วย


ที่มา : IT Education

เวลลิงตัน Wellington



ประชากร ประมาณ 363,400 คน

ปีที่ก่อตั้ง ปีค.ศ. 1865 ได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงแทนเมืองโอ๊คแลนด์

จุดเด่นเมือง เมืองหลวงของประเทศนิวซีแลนด์ ซึ่งมักจะได้รับการเปรียบว่าเหมือนกับซานฟรานซิสโก เพราะมีถนนแคบ บ้านหลังเล็กมีสีสันแน่นขนัดลดหลั่นกันลงมาตามเนินเขา เต็มไปด้วยร้านหนังสือ ร้านกาแฟและร้านอาหาร เมืองนี้มีจุดเด่นที่เป็นเมืองท่าที่เชื่อมต่อระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้ ได้รับสมญานามว่า Windy City เพราะมีกระแสลมแรงจากช่องแคบพัดผ่าน

งาน เวลลิงตันเป็นเมืองหลวงและเป็นศูนย์กลางความเจริญทั้งทางด้านวัฒนธรรมและการค้า มีแหล่งท่องเที่ยวและผู้คนมากมายเดินทางเข้ามาชมเมือง ดังนั้นการหางานตามร้านอาหารหรือที่พักต่างๆ ในเมืองจึงไม่ใช่เรื่องยาก ี้

ท่องเที่ยว เมืองหลวงของนิวซีแลนด์แห่งนี้นอกจากเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแล้วยังมีแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ มากมาย เช่น

Wellington Zoo สวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในนิวซีแลนด์ is the oldest in New Zealand

Te Papa พิพิธภัณฑ์ซึ่งได้รับคำจำกัดความจากหนังสือพิมพ์วอชิงตัน โพสต์ว่าเป็น "one of the most ambitiously eclectic museums in the world"

Civic Square เป็นลานโล่งสีเบจกับสีชมพู ตรงกลางคือ Capital Discovery ซึ่งสร้างไว้สำหรับจัดงานนิทรรศการต่างๆ

National Art Gallery หอศิลปะแห่งชาติ

National Film Archives & Library

National Library หอสมุดแห่งชาติ

National Opera โรงละครแห่งชาติ

Wellington Botanic Gardens

National Portrait Gallery

New Zealand Symphony Orchestra

National Cricket Museum

National War Memorial อนุสรณ์สถานสงครามแห่งชาติ

นอกจากนี้ในเมืองเวลลิงตันยังมีร้านรวงต่างๆ ให้ได้เลือกซื้อของตามใจชอบอีกมากมายด้วย

พื้นที่ ประมาณ 28,990 เฮคเตอร์ หรือ 290 ตารางกิโลเมตร

สนามบิน มีสนามบินนานาชาติ Wellington International Airport ซึ่งอยู่ห่างตัวเมืองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 8 กิโลเมตร ซึ่งเป็นสนามบินที่สามารถเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ

การเดินทางระหว่างรัฐ สามารถเดินทางโดยเครื่องบินที่สนามบินนานาชาติ Wellington International Airport ทางรถบัส ด้วยบริการของ InterCity หรือ Newmans และรถไฟจากสถานี Waterloo Quay ไปยังเมืองต่างๆ เช่น Auckland และ Napier นอกจากนี้ยังมีทางเรือโดยมีท่าเรือบริการข้ามจากเมืองเวลลิงตันไปยังเมืองพิคตันซึ่งเป็นการเชื่อมระหว่างเกาะเหนือและเกาะใต้

สภาพภูมิอากาศ อุณหภูมิเฉลี่ยของเมืองเวลลิงตันต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 12 c และสูงสุดที่ 22 c ดังนั้นอากาศในเมืองจึงค่อนข้างสบาย มีแดดอุ่นๆ แต่ในฤดูร้อนอุณหภูมิอาจสูงถึง 35 c ส่วนลมแรงอันเป็นรูปแบบของอากาศที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้จะมีให้เห็นมากในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งช่วงนี้ลมอาจแรงถึง 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนในฤดูหนาวอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดจะอยู่ที่ 11.3 C และต่ำสุดที่ 6.2C

โรโตรัว Rotorua



ประชากร ประมาณ 68,360 คน

ปีที่ก่อตั้ง ค้นพบเมื่อประมาณปีค.ศ. 1350 แล้วจึงได้รับเอกราชสมบูรณ์จากอังกฤษในปีค.ศ. 1923

จุดเด่นเมือง โรโตรัวคือตัวแทนของเมืองที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน เนื่องด้วยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีจุดเด่นคือเป็นแหล่งรวมความอัศจรรย์ของน้ำพุร้อน ป่า ทุ่งหญ้าและทะเลสาบ อุดมสมบูรณ์ด้วยปลาเทราต์ เรียกได้ว่าเป็นเมืองแห่งสปาและการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นเมืองโบราณที่สั่งสมวัฒนธรรมของชาวเมารี ซึ่งเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของเมืองนี้ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมเบ้าหลอมวัฒนธรรมชาวเมารีที่แท้จริงด้วย

งาน เมืองนี้เป็นเมืองผจญภัย ค่อนข้างลึกลับซับซ้อนน่าค้นหาด้วยสภาพที่ตั้งที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ดังนั้นงานจึงน่าจะเติบโตขึ้นตามปริมาณผู้คนที่เดินทางมายังเมืองนี้ ร้านรวง ที่พัก ลูกหาบและงานบริการอื่นๆ ที่เปิดบริการนักท่องเที่ยวจึงเป็นงานที่พอจะหาได้ในเมืองนี้

ท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองนี้ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ภูเขา ป่าและน้ำพุร้อนต่างๆ

Te Whakarewarewa ศูนย์วัฒนธรรมเมารีและน้ำพุใหญ่ที่สุดชื่อ Pohutu เป็นสถานีที่ควรไปเที่ยวสำหรับคนที่มาเมืองนี้ครั้งแรก
Polynesian Spa สถานที่อาบน้ำแร่ร้อนที่สวยที่สุดในเมืองโรโตรัว
Lake Rotorua มีห่าน หงส์เชื่องให้เลี้ยงและชมวิว
Rainbow Spring Farm แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นโดมแสดงเกี่ยวกับแกะและหมาต้อนแกะ อีกส่วนเป็นสวนเดินเล่นมีบ่อให้ตกปลาเทราต์ เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวมาก
Ohinemutu เป็นหมู่บ้านเมารีริมทะเลสาบ มีโบสถ์ St Faith's Anglican Church ตกแต่งด้วยศิลปะเมารี มี Tamatekapua Meeting House กลางคืนมีคอนเสิร์ตของชาวเมารีแสดงด้วย
Rotorua Museum พิพิธภัณฑ์ซึ่งสร้างเป็นอาคารทรงทิวดอร์สวยงามมา
Waikite Valley Thermal Pool สวนน้ำพุร้อนและโคลนเดือด
Skyline Skyride เป็นกระเช้านั่งขึ้นไปชมวิวและเล่นรถลูจ์ รถเล็กๆ ปล่อยลงมาตามเนิน
Maori concert & Hangis งานเลี้ยงอาหารค่ำประกอบการแสดงของชาวเมารี
Waimangu Volcanic Valley สวนปล่องควันไอกำมะถันและก๊าซอื่นๆ ลานหินซิลิก้า ชมพืชน้ำร้อน มีเรือพาไปชมพูเขาไฟกลางทะเลสาบ โรโตมาฮานา
Waiotapu Thermal Wonderland สวนบ่อน้ำร้อนและโคลนเดือด มีสีต่างๆ มีน้ำพุเลดี้ น็อกซ์ ( Lady's Knox ) ซึ่งพุขึ้นหลังจากใส่ผงสบู่
The Fairbank Maze สวนต้นไม้ขนาดใหญ่
Burried Village เป็นซากหมู่บ้านที่ภูเขาไฟทาราวีราถล่มทับ และมีทางเดินป่าเพื่อไปดูน้ำตก Te Wairoa Falls ซึ่งมีความสูงเกือบ 80 เมตร
Whirinaki Forest Park ป่าสงวนขนาดใหญ่มีพืชและสัตว์ธรรมชาตินานาชนิด
Whakarewarewa State Forest Park ป่าที่ปลูกไม้เรดวูดซึ่งใหญ่ขนาดสองสามคนโอบ กลายเป็นป่าทึบ ร่มรื่น คนที่สนใจป่าปลูกไม่ควรพลาด
อุทยานแห่งชาติ Tongariro ปกคลุมด้วยภูเขาไฟ 3 ลูกที่ยังไม่สงบ

พื้นที่ ประมาณ 261,700 เฮคเตอร์

สนามบิน
มีสนามบิน Rotorua Airport ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางตะวันออกประมาณ 10 กิโลเมตร โดยต้องเดินทางต่อมาจากสนามบินในเมืองต่างๆ ดังนี้ Auckland, Christchurch, Mount Cook, Queenstown, Taupo และ Wellington ์

การเดินทางระหว่างรัฐ
ทางอากาศจากสนามบินโรโตรัว โดยมีเครื่องบินออกจากเมืองไปยังเมืองต่างๆ อาทิ from Auckland, Christchurch, Mount Cook, Queenstown, Taupo และ Wellington และยังสามารถเดินทางโดยรถบัสจากบริการของ InterCity ไปยังเมือง Auckland, Hamilton, Opotiki, Taupo, Tauranga, Wellington และ Whakatane หรือใช้บริการของ Newman ไปยังเมือง Napier, Palmerston, Taupo, Tauranga และ Wellington นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถไฟจากสถานีที่ตั้งอยู่มุมถนน Railway Road and Lake Road มีบริการสายหลักสายเดียวโดย Geyserland เดินรถจากโอ๊คแลนด์และโรโตรัว ซึ่งจะแวะจอดที่แฮมิลตันด้วย โดยจะเดินรถทุกวันจากโอ๊คแลนด์ 8.04 น. ถึงโรโตรัว 12.17 น.

สภาพภูมิอากาศ
อากาศที่เมืองโรโตรัวมักจะร้อนกว่าภูมิภาคอื่นๆ บนเกาะเหนือ โดยอุณหภูมิสูงสุดในฤดูร้อน ช่วงเดือนมกราคม - มีนาคมจะอยู่ระหว่าง 20-27 c และอุณหภูมิต่ำสุดในฤดูหนาวช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม เฉลี่ยที่ประมาณ 10-12 c ส่วนฤดูฝนนั้นเรียกได้ว่ายาวนานทั้งปี เพราะเมืองนี้มักจะมีฝนตกตลอด